ประวัติ ความเป็นมา
"คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจ" ปรากฏในมาตรา 35 ของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจาณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจ เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการสถานพินิจ และช่วยเหลือกิจการสถานพินิจเพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งคราวละ สามปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ ่ในทางปฏิบัติไม่ปรากฏว่ามีระเบียบที่ว่าด้วยคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจโดยตรง และในทางปฏิบัติผู้พิพากษาสมทบของศาลเยาวชนและครอบครัว ทำหน้าที่เป็นกรรมการสงเคราะห์โดยให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในสถานควบคุม ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ปฏิบัติงานของสถานพินิจ จวบจนรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 บัญญัติให้ศาลเป็นหน่วยงานอิสระ พร้อมแก้ไข ข้อความในบางมาตราของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพ.ศ. 2534 ให้งานของสถานพินิจและงานการบังคับบัญชาข้าราชการของสถานพินิจ ทั่วราชอาณาจักรซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้มาอยู่ในความรับผิลดชอบของปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งส่งผลให้มีการออกระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2544 กำหนดให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะกรรมการของกระทรวงยุติธรรมจำนวนหนึ่งและผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ จิตวิทยา การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพหรือสวัสดิการของเด็กและเยาวชน จำนวน 5 ท่าน ร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการดำเนินงานประชุม รวม 2 ครั้ง กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการสงเคราะห์ กำหนดหลักสูตร การอบรมคณะกรรมการสงเคราะห์
กรรมการสงเคราะห์ หมายถึง กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตามกฎหมายซึ่งเป็นบุคคลที่เสียสละทั้งกายใจและทรัพยากรในการเข้ามาสงเคราะห์ช่วยเหลือและให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดซึ่งถือได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติและเป็นที่น่านับถือโดยกรรมการสงเคราะห์จะมีวาระในการดำรงตำแหน่ง 3 ปี และสามารถที่จะทำการต่อวาระในการดำรงตำแหน่งได้ หรือก็ คือ “บุคคลที่มีจิตอาสาที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาผู้อำนวยการสถานพินิจและช่วยเหลือสถานพินิจเพื่อให้เด็กและเยาวชนผู้กระทำผิดได้มีสวัสดิภาพและอนาคตที่ดีและสามารถกลับตัวเป็นพลเมืองที่ดีในสังคมได้"