คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของผู้ใช้บริการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)ของผู้ใช้บริการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
ของผู้ใช้บริการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
……………………………………………………………
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กพน.”) ตระหนักและให้ความสำคัญ กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และถือปฏิบัติอย่าง เคร่งครัด ในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) ฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการ ของ กพน. ได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง สิทธิต่างๆ ของท่าน (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ กพน. ดำเนินการในฐานะ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งหมายความว่า กพน. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
กพน. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทการให้บริการ และภายใต้ฐานความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ดังนี้
1.1 เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐของ กพน.
1.2 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
1.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
1.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
1.5 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
1.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ
1.7 ความยินยอมของท่าน
ในกรณีที่ กพน. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ กพน. ไม่สามารถดำเนินการ หรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
กพน. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
๒.๑ เพื่อความจำเป็นในการยืนยันตัวบุคคลสำหรับการบริหารจัดการระบบการให้บริการต่าง ๆ สำหรับผู้ดูแลระบบ และผู้มีสิทธิบริหารจัดการระบบ
๒.๒ เพื่อความจำเป็นในการจัดทำทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานสำหรับการจัดการบัญชีผู้ใช้บริการ เช่น การเพิ่ม การลบ และการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล สำหรับผู้ดูแลระบบ และผู้มีสิทธิบริหารจัดการระบบ เป็นต้น
๒.๓ เพื่อความจำเป็นในการติดต่อประสานงาน การสอบถาม การแจ้งข่าวสาร และการดำเนินการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับงานมาตรฐานดิจิทัล
๒.๔ เพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติของการเยี่ยมชมสำหรับการติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
2.5 เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม โครงการภายใต้การดำเนินงานของ กพน.

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งในข้อ 2. กพน. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
3.1 แหล่งข้อมูลและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้งรายการข้อมูลส่วนบุคคล มีดังนี้
แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวม รายการข้อมูลส่วนบุคคล
เก็บข้อมูลจากท่านโดยตรง ผ่านแบบฟอร์มการ ลงทะเบียน ชื่อ นามสกุล สถานะความสัมพันธ์ เลขประจำตัวประชาชน/PASSPORT เบอร์โทรศัพท์ E-mail ที่อยู่ อายุ เพศ
สถานภาพสมรส อาชีพ
เก็บโดยใช้การใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตาม พฤติกรรมการใช้งานของท่าน ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ชื่อหน่วยงาน และ IP Address
เก็บข้อมูลผ่านการเยี่ยมชมหรือการใช้บริการ
ในส่วนต่างๆ บนแพลตฟอร์มการให้บริการ ข้อมูลภายในคุกกี้ (Cookie data) และ IP Address
3.2 จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
ความจำเป็นในการยืนยันตัวบุคคลสำหรับ การบริหารจัดการระบบการให้บริการต่าง ๆ สำหรับผู้ดูแลระบบ และผู้มีสิทธิบริหารจัดการ
ระบบชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ชื่อหน่วยงาน และ IP Address
เพื่อความจำเป็นในการจัดทำทะเบียนบัญชี ผู้ใช้งานสำหรับการจัดการบัญชีผู้ใช้บริการ เช่น การเพิ่ม การลบ และการขอเปลี่ยนแปลง ข้อมูล สำหรับผู้ดูแลระบบ และผู้มีสิทธิบริหาร
จัดการระบบ เป็นต้น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ชื่อหน่วยงาน และ IP Address
เพื่อความจำเป็นในการติดต่อประสานงาน การสอบถาม การแจ้งข่าวสาร และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง
กับงานมาตรฐานดิจิทัล ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ เลขประจำตัว ประชาชน/PASSPORT เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่
เพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติของการเยี่ยมชม สำหรับการติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพ
การทำงาน ข้อมูลภายในคุกกี้ (Cookie data) และ IP Address
เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม โครงการภายใต้ การดำเนินงานของ กพน. ชื่อ นามสกุล และรูปถ่าย
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนส่วนบุคคลของท่าน
4.1 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
4.1.1 ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน และส่ง ข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
4.1.2 ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน และส่งข้อมูล ตามที่กฎหมายกำหนด
4.2 เปิดเผยข้ อมูลของหน่วยงานต่อสาธารณะ ผ่านช่องทาง www.djop.go.th ผ่านสื่อ Social Media
ประกาศบนบอร์ดประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน
ท่านมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วน บุคคลของท่านที่ กพน. เก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่ กพน. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของ ท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยท่านมีสิทธิขอให้ กพน. ลบหรือทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
5.4 สิทธิในการขอให้ กพน. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
5.4.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กพน. ได้ตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านเพื่อให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.4.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ กพน. ได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม เว้นแต่ท่านประสงค์ให้ กพน. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิ ตามกฎหมายของท่าน
5.4.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กพน. อยู่ระหว่างพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ กพน. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น กพน. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ กพน. เป็นต้น)
5.6 สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ กพน. ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกเก็บรักษา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือเงื่อนไขการใช้บริการให้ กพน. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูล ต่อไป
5.7 สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน จาก กพน. ได้ในกรณีที่ กพน. ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป ได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการ อัตโนมัติ โดยอาจขอให้ กพน. ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น รวมถึง สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ กพน. ส่งหรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคล ในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมอื่น โดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมาย กำหนด
5.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือบุคลากรของกรมพินิจและคุ้มครอง เด็กและเยาวชน ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้หรือไม่เป็นตาม ที่กฎหมายกำหนด ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี กพน. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์ม หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ กพน. ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นรายกิจกรรม โดย กพน. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ส่งหรือโอนไปยัง ต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
6.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ กพน. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
6.2 ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศ กำหนด
6.3 เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ กพน. (ถ้ามี) หรือเป็นการทำตามคำขอ ของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
6.4 เป็นการกระทำตามสัญญาของ กพน. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
6.5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่าน ไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
6.6 เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
กพน. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตาม วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วน บุคคลของท่านสิ้นความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์และตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว กพน. จะดำเนินการลบ ทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มี ข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กพน. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษา ข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันมิให้ผู้อื่นที่ ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล รวมถึงรักษาความถูกต้องของข้อมูล ท่านจะต้องไม่เปิดเผยรหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านให้แก่บุคคลภายนอกทราบ หากท่านได้มีการแบ่งปัน หรือเปิดเผยรหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บุคคลอื่น หรือแม้ว่าในกรณีใด ๆ ที่ท่านไม่สามารถรักษาความลับในรหัสผ่านส่วนตัว หรือไม่สามารถควบคุม การใช้งานของรหัสผ่านของท่านได้ ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการกระทำใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ชื่อหรือ บัญชีของท่าน โดยถือว่าเป็นการกระทำโดยท่านเองและต้องรับผิดตามกฎหมายในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของบัญชี
กพน. มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถ เข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูล ดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่น และปฏิบัติ ตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ กพน. อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วน บุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดย กพน. มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิง องค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศ กำหนด
นอกจากนี้ เมื่อ กพน. มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่า เพื่อการให้บริการ ตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น กพน. จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วน บุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ กพน. เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
9.การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
กพน. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอมาที่กรมพินิจและคุ้มครอง เด็กและเยาวชน เลขที่ 404 หมูที่ 3 ชั้น 6 - 7 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการ คัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล กพน. จะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ กพน. อาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วน บุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
10. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
กพน. ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดย กพน. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
11. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
กพน. อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ www.djop.go.th อย่างไรก็ดี กพน. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบ ประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ กพน.
การเข้าใช้งานบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลง ในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้และโปรดติดต่อมา ยัง กพน. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้น ประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
12. การติดต่อสอบถาม ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่ ๑2.๑ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
- ชื่อ : กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
- สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 404 หมูที่ 3 ชั้น 6 - 7 อาคารกระทรวงยุติธรรม
ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองหอง เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร 10210
- ช่องทางการติดต่อ : www.djop.go.th
- Call Center : 1111 กด 77
12.2 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
- ตำแหน่ง : รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงระดับกรม (Department Chief Information Officer : DCIO)
- สถานที่ติดต่อ : กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
เลขที่ 404 หมูที่ 3 ชั้น 6 - 7 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองหอง เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร 10210
- ช่องทางการติดต่อ : 02 141 6465
- Call Center : 1111 กด 77
ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

แท็กข่าวสาร

ประกาศ