
พิธีสวดพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า✴
วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 07.00 น. นายศักดิ์ดา สีคำมื้อ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ จังหวัดนครสวรรค์ เข้าร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง จังหวัดนครสวรรค์ นางสาวชุติพร เสชัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลเนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า โดยนำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรทุกหมู่ เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกันจากนั้นนางสาวชุติพร เสชัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธี นำนำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรทุกหมู่ ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีวันวชิราวุธ หรือวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์เป็นผู้พระราชทานกำเนิดกิจการลูกเสือไทยขึ้น ซึ่งพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านได้ทรงริเริ่มและพัฒนาไว้ ล้วนแต่เป็นรากฐานที่สำคัญอันนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 รวมพระชนมายุ 45 พรรษา เสด็จดำรงราชสมบัติรวม 15 ปี พระองค์มีพระอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง กระทั่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ใน พระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่ไม่มีวัดประจำรัชกาล แต่ได้ทรงมีการการสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวงหรือวชิราวุธวิทยาลัยในปัจจุบัน ขึ้นแทน ด้วยทรงพระราชดำริว่าพระอารามนั้นมีมากแล้ว และการสร้างอารามในสมัยก่อนนั้นก็เพื่อบำรุงการศึกษาของเยาวชนของชาติ จึงทรงพระราชดำริให้สร้างโรงเรียนขึ้นแทน