คุณสมบัติของกรรมการสงเคราะห์

คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสงเคราะห์ตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามและการพ้นจากตำแหน่งกรรมการสงเคราะห์ฯ พ.ศ. 2558 มี ดังนี้

  1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์
  2. มีประสบการณ์ด้านการดูแลช่วยเหลือเด็กหรือด้านอื่นอันจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน
  3. มีความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการสงเคราะห์แก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน
  4. มีคุณธรรมจริยธรรมพร้อมช่วยเหลือกิจการสถานพินิจ
  5. ประกอบอาชีพสุจริตที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี
  6. ไม่เป็นคนวิกลจริตจิตฟั่นเฟือนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
  7. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
  8. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
  9. ไม่มีประวัติเป็นผู้กระทำความรุนแรงแก่เด็กเยาวชนหรือสตรี

                นอกเหนือจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสงเคราะห์ตามระเบียบแล้ว  เพื่อให้กรรมการสงเคราะห์สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพควรมีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติม ดังนี้

    1) สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและเยาวชนการมีมนุษยสัมพันธ์ดีโดยเฉพาะการเข้าถึงเด็กเป็นด่านแรกในการเข้าถึงปัญหาของเด็กและเยาวชนและสามารถที่จะให้ข้อแนะนำและบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนต่อไปได้

    2) สามารถประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานพินิจและเครือข่ายในชุมชนจากการที่กิจกรรมต่าง ๆ ของกรรมการสงเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นในด้านการจัดหารายได้การจัดการฝึกอบรมเสริมทักษะรวมไปถึงกิจกรรมอื่น ๆ ทำให้จะต้องประสานงานกับทั้งเจ้าหน้าที่และเครือข่ายคนในชุมชนเพื่อสามารถที่ดำเนินกิจกรรมของกรรมการสงเคราะห์เพื่อให้เด็กและเยาวชนต่อไปได้

    3) สามารถรับฟังความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่และกรรมการสงเคราะห์ท่านอื่นกรรมการสงเคราะห์ควรมีคุณสมบัติของการเป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อที่จะสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารข้อแนะนำเพื่อที่จะสามารถนำไปพัฒนากระบวนการดำเนินงานต่อได้ไม่ว่าจะเป็นจากเจ้าหน้าที่และกรรมการสงเคราะห์ท่านอื่น ๆ ทั้งนี้อาจรวมไปถึงข้อแนะนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนด้วย

    4) สามารถแบ่งเวลาของตนเพื่อการดำเนินกิจกรรมโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนเวลาในการเข้ามาดำเนินงานของกรรมการสงเคราะห์เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะเข้ามาร่วมทํากิจกรรมการเสียสละและการเข้ามาเป็นอาสาสมัครของกรรมการสงเคราะห์ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าเชิดชูเกียรติยศให้แก่ตนเองและครอบครัวการเข้ามาเป็นกรรมการสงเคราะห์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดสรรเวลาร่วมกับกรรมการสงเคราะห์ท่านอื่น ๆ เพื่อสร้างแนวทางการทำงานร่วมกัน

    5) มีความต้องการที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปพร้อมกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุดถือว่าเป็นแนวคิดที่กรรมการสงเคราะห์ในอุดมคติควรมีจากสถานการณ์สิ่งแวดล้อมเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาการเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อที่จะตอบสนองและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนจึงเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินของกรรมการสงเคราะห์ด้วยเหตุนี้การพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้ทั้งจากสื่อภายนอกจากกรรมการสงเคราะห์ด้วยกันเองจึงเป็นส่วนสำคัญ

    6) สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปจาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิท -19 ส่งผลทำให้ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการสงเคราะห์จึงควรมีความสามารถในการปรับตัวเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์และเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยทำให้การดำเนินงานของกรรมการสงเคราะห์ด้วยเหตุนี้คุณสมบัติในการปรับตัวจึงจะช่วยทำให้การดำเนินกงานของกรรมการสงเคราะห์อยู่รอดและประสบความสำเร็จต่อไปได้