ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของผู้ใช้บริการ

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด

(CCTV Privacy Notice)

          กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า "กพน.") กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ("พื้นที่") ของ กพน. เพื่อการปกป้องชีวิตสุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ กพน. ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้าลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า "ทำน") ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว

          ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด ("ประกาศ") ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ ("ข้อมูลส่วนบุคคล")รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ดังนี้

         ๑. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

             กพน. ดำลังดำเนินการเก็บรวบรวมชัดมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้

            ๑..๑ ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น

           ๑ ๒ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกพน. หรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิชั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

           ๑.๓ ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของ กพน.

        ๒.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

           กพน. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

          ๒.๑ เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน

          ๒ ๒ เพื่อการปกป้องอาอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของ กพน.จากความเสียหาย การขัดขวางการทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น

          ๒.๓ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบคันและดำเนินคดีทางกฎหมาย

          ๒.๔ เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์

          ๒.๕ เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน

         ๒.๖ เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างจ้างงาน๓. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กพน. เก็บรวบรวมและใช้

     ๓. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กพน. เก็บรวบรวมและใช้

         ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ ๒. กพน. ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้โดยจะจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่ กพน. เห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้

รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ㆍภาพนิ่ง

ㆍภาพเคลื่อนไหว

ㆍเสียง

ㆍภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป้า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น

         ๔. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

             กพน. จะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผยเว้นแต่ กรณีที่ กพน. มีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ กพน. อาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิตินิติบุคคล ดังต่อไปนี้

            ๔.๑ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมายหรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ

           ๔.๒ ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น

           ๕. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๖๒ ของท่าน

               พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๖๒ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

             ๕.๑ สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของทำนที่ กพน. เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่ กพน. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

            ๕.๒ สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ในถูคต้องหรือไม่ทรบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

            ๕.๓ สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ชัดมูลส่วนบุคคลของท่านในกรมีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้

            ๕.๓.๑ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กพน. ทำการตรวจสองบตามคำร้องของท่านให้แก่ใจใจข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

            ๕.๓.๒ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย   ๕ ๓.๓ เมื่อซัลส่วนบุคคลของท่านหมดความขั้นขึ้นในในการภัยรักษาใว้ตามวัตรที่ กพบ.ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้ กพน. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน

           ๕.๓.๔ เมื่ออยู่ในช่วงมาที่ กพน กำลังพิสูตรให้ท่านห็นถึงหตุอันชอบด้วยกฎหมายในกามในการมในรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          ๕.๔ สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ กพน.มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น กพน. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ กพน.)

      ๖. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

          พื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด กพน. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลา ๑ เดือนนับจากเมื่อเจ้าหน้าที่ของอาคารได้ทำการตรวจสอบย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เมื่อพันระยะเวลาดังกล่าวกพน. จะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป

     ๗. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

           กพน. มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งโนเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (nformation Security Policy) ของ กพน.นอกจากนี้ กพน. ได้กำหนตให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity)และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดย กพน. ได้จัดให้มีการทบทวนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

    ๘. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

        กพน. ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้โดย กพน. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

    ๙. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

        ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ กพน. อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควรและจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง การปิดประกาศไว้ที่ทางเข้า หรือโต๊ะประชาสัมพันธ์ โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี กพน. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของ กพน.การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

     ๑๐. การติดต่อสอบถาม

          ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่

         ๑๐.๑ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

                ชื่อหน่วยงาน : : กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

                สถานที่ติดต่อ : เลขที่ ๔๐๔ หมูที่ ๓ ชั้น ๖ - ๗ อาคารกระทรวงยุติธรรม

                                  ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองหอง เขตหลักสีกรุงเทพมหานคร ๑๐๒๑๐๐

               ช่องทางการติดต่อ : www.diop.go.th

              Call Center : ๑๑๑๑ กด ๗๗

        ๑๐.๒ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPD)

                ตำแหน่ง : รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

                             ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงระดับกรม

                             (Department Chief Information Officer : DCIO)

              สถานที่ติดต่อ : : กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

                                   เลขที่ ๔๐๔ หมูที่ ๓ ชั้น ๖ - ๗ อาคารกระทรวงยุติธรรม

                                   ถนนแจ้งวัฒนะ แชวงทุ่งสองทอง เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๐๒๒๐๐

                                   ช่องทางการติดต่อ : ๐๒ ๑๔๑ ๖๔๖๕

                                   Call Center : ๑๑๑๑ กด ๗๗

 

                                                                                                                   

                                                                                                                      ประกาศ ณวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗

แท็กข่าวสาร

ประกาศ