ข่าวประชาสัมพันธ์

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุโขทัย ขอร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ infographic เนื่องในวันดินโลก ปี ๒๕๖๗

👉👉 หากบุตรหลาน หรือครอบครัวของคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้.............. 🔸️ ด้านพฤติกรรมของเด็ก เช่น เที่ยวกลางคืน ติดเกม ลักขโมย หนีออกจากบ้าน พฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ฯลฯ 🔸️ ด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ควบคุมอารมณ์ไม่เหมาะสม ฯลฯ 🔸️ ด้านการเรียน เช่น หนีเรียน ไม่ไปโรงเรียน ถูกเพื่อนในโรงเรียนกลั่นแกล้ง ฯลฯ 🔸️ ด้านครอบครัว เช่น มีการใช้ความรุนแรงทั้งกายและวาจาในครอบครัว ผู้ปกครองติดสุรา/ การพนัน ฯลฯ 🔸️ ด้านกฎหมาย คดีครอบครอบครัวที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสีย จดทะเบียนรับรองบุตร รับบุตรบุญธรรม ทำนิติกรรมขาย จำนอง ตั้งผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล ฯลฯ 🗣🗣 สามารขอคำปรึกษาได้ที่ ✅️✅️ คลินิกให้คำปรึกษาเด็กและครอบครัวอบอุ่น ณ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้ง 77 จังหวัด และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ทั่ง 20 แห่ง ☎️☎️ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 – 1413607 กองพัฒนาระบบสุขภาพเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 02 – 1416469 กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (ส่วนกลาง) หรือ 💻 https://www.djop.go.th

“การทำงานทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานบริหาร จำเป็นต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคเป็นธรรมดา” แต่อันที่จริงถ้าเราลองใคร่ครวญดูให้ดีจะพบว่า หนทางแก้ไขปัญหานั้นมีอยู่เสมอ ปัญญาและอุบายอันชาญฉลาดที่เรียกว่า "อุปายโกศล" หรือ "กุศโลบาย" ย่อมเป็นหนทางที่คนทำงาน โดยเฉพาะผู้บริหารจำเป็นต้องมีอยู่เสมอ 🤍กุศโลบาย และคุณธรรม เป็นเครื่องประคับประคองสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ ย่อมเป็นหนทางฉลาดที่จะสามารถข้ามพ้นอุปสรรคทั้งปวง และทำให้จิตใจมีความองอาจ 🙏🙏พระโอวาท I สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ เปิดการประชุมสัญจรเจ้าคณะธรรมยุต และคณะอนุกรรมการในคณะธรรมยุต ณ วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ #NBT2HD #พระสังฆราช #๙๖พรรษาสมเด็จพระสังฆราชฯ #พระโอวาท

“ใครก็ตามที่มีนิสัยคดโกง” ไม่ซื่อตรงต่อการประกอบอาชีพการงาน อีกทั้งยังไม่มีความสัตย์ซื่อต่อตนเองในอันที่จะประพฤติตนเป็นคนดีได้โดยตลอดรอดฝั่ง เผลอปล่อยตัวให้ตกอยู่ในอำนาจฝ่ายต่ำ กล้าที่จะกระทำบาป กระทำการอันทุจริต บุคคลนั้นย่อมเป็นคนน่าสงสาร เพราะเท่ากับเขาเป็นคนชั้นต่ำ เป็นคนไม่มีเกียรติ และเป็นที่คาดหมายได้ว่าจะไม่อาจพบกับความสุขความเจริญ 🤍สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนพุทธบริษัททั้งหลายไว้ว่า "คนจะได้รับเกียรติ ก็เพราะความสัตย์" ยิ่งถ้าท่านเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ มีความจริงใจ และจริงวาจา ก็ยิ่งจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีเกียรติเพิ่มขึ้น ได้ชื่อว่าเป็นคนชั้นสูง และย่อมประสบความสุขความเจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสุขใจ และความเจริญใจที่บังเกิดขึ้นแก่ตัวท่านในทันที และในขณะเดียวกัน ท่านย่อมได้ชื่อว่าเป็นพลเมืองดีของชาติ เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีของพระศาสนา 🙏🙏พระโอวาท I สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ประทานในพิธีปฏิญาณตน โครงการ “แท็กซี่จิตอาสา ทำความดี ด้วยหัวใจ” วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ #NBT2HD #พระสังฆราช #๙๖พรรษาสมเด็จพระสังฆราชฯ #พระโอวาท

เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน อาหารประจำฤดูกาลที่ใครหลายคนรอคอยคงไม่พ้นเห็ดต่างๆ โดยเฉพาะ เห็ดเผาะ ที่ขายดิบขายดี อย่างไรก็ตามก่อนรับประทานต้องตรวจสอบให้ดีว่า เป็นเห็ดพิษหรือไม่? เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวจากสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า Piangkwan Sunsin ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับเห็ดชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับ “เห็ดเผาะ” แต่หากรับประทานเข้าไปแล้วอันตรายมาก เพราะเป็นเห็ดพิษ เนื่องจากมีคนไข้เข้ามารักษาอาการป่วย เพราะกินแกงเห็ดดังกล่าวเข้าไป นั้น จึงขอเตือนผู้บริโภคที่ชอบรับประทานเห็ดเผาะ พร้อมแนะควรสังเกตให้ดีหากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย จากการตรวจสอบสิ่งที่คนไข้ทานเข้าไป พบว่าเป็น “เห็ดไข่หงส์” ซึ่งเป็นเห็ดพิษ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับเห็ดเผาะ ดั่งฝาแฝด เห็ดไข่หงส์ คือ ? - ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Scleroderma citrinum Pers. - ชื่อสามัญคือ เห็ดไข่หงส์ แต่ชาวบ้านมักเรียก เห็ดเผาะแบบมีราก - “เห็ดไข่หงส์” ถือเป็นเห็ดพิษ หรือที่เรียกว่า “เห็ดเผาะแบบมีราก” - มีลักษณะรูปกลม สีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ด้านบนแบนลงเล็กน้อย ผิวแตกเป็นเกล็ดใหญ่ มีทั่วไปในป่าสน - ลักษณะหน้าตาเหมือนกับเห็ดเผาะเป๊ะ ต่างกันตรงที่มีพิษหรือไม่มีพิษเท่านั้น โดยพิษของมันจะทำให้คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ส่วนเห็ดเผาะไม่มีรากสามารถรับประทานได้ปกติ ควรสังเกตให้ดีก่อนซื้อและนำมาปรุงอาหาร อาการหลังรับประทานเห็ดพิษ - คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเหลว ไม่ควรซื้อยากินเองหรือไปรักษากับหมอพื้นบ้าน การช่วยเหลือในเบื้องต้น - กระตุ้นให้ผู้ป่วยอาเจียน โดยให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ล้วงคอให้อาเจียน หรือดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแกงแล้วล้วงคอให้อาเจียนออกมา (วิธีนี้ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี) - รีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการรับประทานเห็ดโดยละเอียด พร้อมกับนำตัวอย่างเห็ดพิษไปด้วย - ควรให้ผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือนัดติดตามอาการทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ เนื่องจากเห็ดพิษชนิดร้ายแรงจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนในช่วงวันแรก แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงตามมาคือ การทำงานของตับ และไตล้มเหลว อาจเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้

เปิดเทอมมาได้สักระยะแล้ว คุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองหลาย ๆ ท่าน ก็คงชื่นใจที่ได้เห็นภาพลูก ๆ หลาน ๆ ของเราสะพาย ถือกระเป๋า หรือลากกระเป๋าลากไปโรงเรียนกันนะคะ แต่เคยฉุกคิดไหมคะว่า ลูก ๆ หลาน ๆ ของเรา ควรแบกกระเป๋าหนักเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระเป๋าหนังสือของนักเรียน มีผลกระทบต่อกระดูกสันหลังของเด็ก บางครั้งเด็กที่ถือกระเป๋าแบบหิ้วหรือแบบสะพายข้าง หากมีน้ำหนักมากเด็กก็จะเอียงตัวไปข้างใดข้างหนึ่งเพื่อรับน้ำหนัก กล้ามเนื้อก็จะพัฒนาไปในลักษณะข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าใช้งานร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง ข้างนั้นก็จะทำงานหนักมากกว่าปกติส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายของเด็ก แนะนำให้เด็กนักเรียนไม่ควรแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักตัว สังเกตยังไง กระดูกสันหลังคดหรือไม่ ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้ คือ - ลำตัวของเด็กจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือสังเกตพบว่ามีหัวไหล่ทั้งสองข้างหรือมีเชิงกรานไม่เท่ากัน - หรือให้เด็กยืนเท้าชิดกัน และให้ก้มตัวมาทางด้านหน้าใช้มือ 2 ข้างพยายามแตะพื้นจะเห็นความนูนของหลังไม่เท่ากัน - ควรพาเด็กมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง เพื่อทำการตรวจยืนยันและให้การรักษาที่ถูกต้องต่อไป โรคกระดูกสันหลังคดเอียง เป็นการคดงอหรือบิดเบี้ยวของกระดูกสันหลังไปด้านข้างทำให้เสียสมดุล โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1. เป็นกลุ่มเด็กที่มีภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด พบได้บ่อยในเด็กอายุ 0-3 ปี 4-10 ปี และ 11-18 ปี ส่วนใหญ่พบในเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย กลุ่มที่ 2. เป็นกลุ่มภาวะกระดูกสันหลังคดเอียง เกิดจากโรคทางระบบพันธุกรรม หรือกลุ่มโรคความผิดปกติทางระบบเส้นประสาทต่างๆ ดังนั้น หากผู้ปกครองสังเกตพบความผิดปกติเกี่ยวกับความคดเอียงของกระดูกสันหลัง ควรรีบนำเด็กมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างถูกวิธี

กลายเป็นเทรนด์ของวัยรุ่นยุคใหม่ที่ต้องการจะมีผิวขาวใส นวลเนียน เปล่งประกายออร่า ที่หันมาใช้เครื่อง สำอางประทินผิวกันจน เป็นแฟชั่น ใครไม่ใช้ถือว่าเชย ตกกระแสความขาว! การใช้สารเร่งผิวขาว ทั้งอาหารเสริมและเสริมความงามมีการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หากใช้เกินขนาดหรือผิดวิธี อาจทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต สารที่ทำให้ผิวขาวซึ่งทางการแพทย์นำมาใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยเป็นหลัก ปัจจุบันที่ใช้ คือ กลูตาไธโอน เป็นสารในกลุ่มไตรเปปไทด์ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดยึดเกาะกัน คือ กลูตามีน ซีสตีอีน และไกลซีน โดยปกติ กลูตาไธโอน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีโมเลกุลใหญ่ดูดซึมได้น้อย ทางการแพทย์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง โรคปลายประสาทเสื่อม จากผลการรักษาทำให้ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงที่สังเกตได้ คือ มีผิวขาวขึ้น จึงมีการนำมาใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานเกินขนาด ไม่อยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์ ทำให้ได้รับอันตราย เช่น ได้รับสารแปลกปลอมที่อยู่ในส่วนผสมของกลูตาไธโอน ส่วนการฉีดโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะช็อก มีอาการแพ้ อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทานหรือฉีดวิตามินผิวขาวมีอันตรายและ “ให้ผลไม่ถาวร” ลักษณะสีผิวของแต่ละคนแต่ละชาติถูกกำหนดขึ้นมาโดยพันธุกรรม เพราะฉะนั้นการกระทำใดๆ ที่หวังจะให้สีผิวของเราเปลี่ยนไปจากผิวคล้ำเป็นผิวขาว ไม่ว่าจะเป็นการทายา ทานยาหรือฉีดยา จะให้ผลที่ไม่ถาวร วิตามินฉีดผิวไม่ใช่การรักษาที่เป็นมาตรฐาน อันตรายที่จะเกิดได้ เนื่องจากในปัจจุบันมียาที่จำหน่ายหลากยี่ห้อ หลายผลิตภัณธ์ อาจจะมีผลมาจากตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ผ่านการขึ้นทะเบียนจากทางองค์การอาหารและยา การฉีดยาเข้าเส้นเลือดโดยตรงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เกิดอาการช็อก ผื่นขึ้นลุกลาม ตาพร่ามัว ลิ่มเลือดอุดตันที่สมอง แขนขาอ่อนแรง ความดันต่ำ ภาวะตับวาย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น ขอเตือนนักเรียน วัยรุ่น และประชาชนทั่วไปว่า ไม่ควรซื้อยา หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทางออนไลน์ และย้ำว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิด ไม่มีสรรพคุณช่วยปรับสีผิวหรือช่วยลดน้ำหนัก ผู้บริโภคต้องตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ขอแนะนำว่าการที่จะมีผิวขาว สวย สามารถทำได้อย่างปลอดภัย คือ รับประทานอาหารให้ ถูกหลักโภชนาการ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรทาครีมกันแดดก่อนออจากบ้าน หาเครื่องป้องกันแสงแดด เช่น หมวกปีกกว้าง ร่ม เสื้อแขนยาว แว่นตากันแดด และมีทัศนคติที่ดีต่อการมีสีผิวสวย ตามธรรมชาติ ด้วยการดูแลตนเองตามคำแนะนำดังกล่าว แค่นี้ก็มีผิวสวย ผุดผ่องได้

รัฐธรรมนูญของไทยตั้งแต่ พ.ศ.2535 จนกระทั่งฉบับปัจจุบัน 2560 มาตรา 98 กำหนดให้ "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" เป็น "ประธานรัฐสภา" และให้ประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง “ความสำคัญของตำแหน่งนี้ คือ การเป็นผู้นำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อพระมหากษัตริย์ หลังที่ประชุมรัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ” ที่มาที่ไป ใครเลือก ประธานรัฐสภา ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 กำหนดให้การเลือกประธานสภาฯ มีวิธีการดังนี้ - สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อสมาชิกได้ 1 ชื่อ - การเสนอนั้นต้องมีจำนวนสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน - ผู้ถูกเสนอชื่อ แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม - ถ้ามีการเสนอชื่อผู้ใดเพียงชื่อเดียว ให้ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก - ถ้ามีการเสนอชื่อหลายชื่อ ให้ออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับ ประธานรัฐสภา มีหน้าที่อะไรบ้าง -เป็นประธานของที่ประชุมรัฐสภา -กำหนดการประชุมรัฐสภา -ควบคุมและดำเนินกิจการของรัฐสภา -รักษาความสงบเรียบร้อยในที่ประชุมรัฐสภาตลอดถึงบริเวณของรัฐสถา -เป็นผู้แทนรัฐสภาในกิจการภายนอก -แต่งตั้งกรรมการเพื่อดำเนินกิจการใดๆ -อำนาจและหน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ หรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ -เป็นผู้นำชื่อนายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อพระมหากษัตริย์ เพื่อให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ หลังสภาฯ มีมติเลือก -เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกฯ อำนาจการบรรจุญัตติเข้าสภา การเสนอญัตติโดยสมาชิกสภาฯ ผู้ยื่นญัตติต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 5 คน ดำเนินการเสนอหนังสือล่วงหน้าต่อประธานรัฐสภา ส่วนญัตติด่วนนั้น ประธานรับสภา จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าเป็นญัตติด่วนหรือไม่

MOU คืออะไร ย่อมาจากคำว่าอะไร แล้วมีผลทางกฎหมายไหม เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ MOU ที่กำลังเป็นประเด็นในสังคมไทยกัน MOU คืออะไร MOU ย่อมาจาก Memorandum of Understanding พูดง่าย ๆ ก็คือ “บันทึกความเข้าใจ” หรือ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์กรหรือบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เหมือนกัน คล้ายเป็นกรอบความร่วมมือที่ตกลงร่วมกันว่าฝ่ายหนึ่งจะทำอะไร ดำเนินการแบบไหน อย่างไร เมื่อไร และอีกฝ่ายก็รับรู้และเข้าใจในแนวทางนั้น ๆ เป็นเหมือนการทำความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน ด้วยความเต็มใจที่จะดำเนินการตามแผนการหรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในภาพมุมกว้าง ไม่เป็นสัญญาผูกมัดใด ๆ MOU ไม่ได้ถือเป็นสัญญาผูกมัด (Contract) และไม่มีผลทางกฎหมาย แต่อาจจะถูกนำมาใช้อ้างอิงเมื่อเรื่องที่ทุกฝ่ายลงนามนั้นเกิดปัญหา จนต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และนำบันทึก MOU นี้มากล่าวอ้างได้ MOU ต่างจาก MOA อย่างไร MOA ย่อมาจาก Memorandum Of Agreement หมายถึง “บันทึกข้อตกลง” ถือเป็นหนังสือสัญญาที่มีการระบุหลักเกณฑ์หรือข้อกติกาให้ผู้ทำสัญญาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม MOA ก็อาจมีความผิดทางกฎหมายฐานประพฤติผิดสัญญา และอีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องได้ ซึ่งแตกต่างจาก MOU ที่เป็นการบันทึกความเข้าใจร่วมกัน แต่ไม่ใช่ข้อสัญญาผูกมัดนั่นเอง ตัวอย่างการทำ MOU MOU แรงงานต่างด้าว MOU เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยขับเคลื่อนฐานการผลิตและช่วยแก้ไขแรงงานภายในประเทศไม่เพียงพอ โดยเป็นการทำข้อตกลงการนำเข้าแรงงานระหว่างประเทศไทยและประเทศเข้าร่วม ซึ่งได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อเข้ามาทำงานภายในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน และได้รับใบอนุญาตทำงานเป็นระยะเวลา 2 ปี (E-Work Permit) ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวที่เข้าระบบ MOU จะได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ตามที่ทางกฎหมายกำหนด และมีเอกสารประจำตัวครบถ้วน

องค์การอนามัยโลก ประกาศเตือนบริโภค "สารให้ความหวานแทนน้ำตาล" ระยะยาวนั้นอาจเสี่ยงต่อสุขภาพ องค์การอนามัยโลก ประกาศเตือนเรื่อง "สารให้ความหวานแทนน้ำตาล" หรือ non-sugar sweeteners – NSS ไม่ได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ในระยะยาวต่อร่างกาย รวมถึงด้านการควบคุมหรือลดน้ำหนัก ทั้งในผู้ใหญ่หรือเด็ก และการใช้ในระยะยาวนั้นอาจเสี่ยงต่อสุขภาพ ล่าสุด องค์การอนามัยโลก ออกมาเปิดเผยว่า การบริโภคอย่างต่อเนื่องอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 / โรคหัวใจและหลอดเลือด / และการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ ในแถลงการณ์ระบุว่า “คำแนะนำนี้ใช้กับทุกคน ยกเว้นบุคคลที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว และรวมถึงสารให้ความหวานสังเคราะห์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือดัดแปลงทั้งหมดที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งไม่จัดอยู่ในประเภทน้ำตาลที่พบในอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตขึ้น หรือขายเองเพื่อเติมลงในอาหารและเครื่องดื่ม โดยผู้บริโภค” ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำในเรื่องการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการเลือกรับประทานอาหารแทน เช่น รับประทานอาหารที่เป็น Real Food ไม่ผ่านกระบวนการดัดแปลง หรือ ทานจากผักผลไม้แทน แต่ต้องคำนึงในเรื่องของปริมาณด้วย "สารให้ความหวานแทนน้ำตาล" คืออะไร สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือ Sweetener เป็นวัตถุเจือปนอาหารชนิดหนึ่งที่ใช้เพิ่มความหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาล มีทั้งแบบให้พลังงานและไม่ให้พลังงาน โดยมักจะนิยมใช้ในผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน อย่างผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ขณะเดียวกัน สารให้ความหวานส่วนใหญ่มักใช้ในปริมาณที่เล็กน้อยเนื่องจากให้ความหวานกว่าน้ำตาลหลายเท่าและยังช่วยลดพลังงานที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย สารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีแบบไหนบ้าง 1.สารให้ความหวานที่ให้พลังงาน ได้แก่ ฟรุกโทส (น้ำตาลจากผลไม้) มอลทิทอล ซอร์บิทอล และ ไซลิทอล สารให้ความหวานกลุ่มนี้ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ควบคุมน้ำหนัก และ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 2.สารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน หรือให้พลังงานต่ำ ได้แก่ ซูคราโลส สตีเวีย (สารสกัดจากหญ้าหวาน) แอสปาแตม อะซิซัลเฟม-เค และ แซคคารีน (ขัณฑสกร) สารให้ความหวานกลุ่มนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผลเสียของ “สารให้ความหวานแทนน้ำตาล” - ในกลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์ เช่น ซอร์บิทอล แมนนิทอล เป็นชนิดน้ำตาลที่ไม่สามารถย่อยได้หมด อาจเกิดอาการมวลท้อง ท้องอืด และท้องเสียได้ - การบริโภคสารให้ความหวานเป็นประจำ อาจจะทำให้เรารู้สึกติดรสหวานได้ ทำให้ไม่สามารถควบคุมอาหารการกินได้อย่างเต็มที่ - ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่เป็นไมเกรน ผู้ป่วยโรคลมชัก และเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี - ในงานวิจัยของสมาคมหัวใจอเมริกัน พบว่า การรับประทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแบบสังเคราะห์ เพิ่มความเสี่ยงกับการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และความจำเสื่อม - น้ำตาลเทียมบางชนิด หากบริโภคมากเกินไป อาจพบผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ, คลื่นไส้ วิงเวียน บางชนิดกระตุ้นการเกิดกรดในกระเพาะ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะได้ คำแนะนำในการบริโภคน้ำตาล -ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา/วัน -แม้น้ำผึ้งจะเป็นน้ำตาลที่พบในธรรมชาติ แต่หากบริโภคมากเกินไป จะทำให้ค่าไขมันไตรกลีซอไรด์สูงได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบ ของน้ำตาลกลูโคสและฟรักโทส -สตีวีโอไซด์ (หญ้าหวาน) เป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัย ต่อผู้บริโภค ควรบริโภคไม่เกิน 4 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน

ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท กรมโรงงานฯ สั่งควบคุมใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ หากฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานฯได้ควบคุมการนำเข้าสารไซยาไนด์จากต่างประเทศ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงคะตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขอนำเข้าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและงานศึกษาวิจัย โดยยอมรับว่า มีผู้ใช้รายย่อยประมาณ 2,000 ราย เช่น การใช้ในร้านทอง ด้วย ซึ่งส่วนนี้ทางบริษัทนำเข้าที่ได้รับขออนุญาตจะเป็นผู้ควบคุมดูแลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์เอง กรณีคดีของแอม ผู้ต้องหาที่นำสารไซยาไนด์ไปใช้ฆ่าเหยื่อเพื่อปลดหนี้ และกรณีที่มีคนนำไปใช้วางยาฆ่าสัตว์เลื้อยคลาน ถือเป็นการใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ ทางกรมโรงงานฯ ในฐานะผู้เสียหาย จะต้องเดินทางไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของผู้ใช้รายย่อย ที่ไม่ต้องมีการขออนุญาตครอบครอง หากในรอบหกเดือนมีการใช้เกิน 100 กิโลกรัม ก็ต้องมีการแจ้งวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ด้วย โดยตำรวจจะเป็นผู้ติดตามการใช้งาน ว่ามีการใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ส่วนเรื่องที่มีการขายผ่านออนไลน์ จะต้องไปดูที่พ.ร.บ.ควบคุมและกฎหมายเรื่องวัตถุอันตราย ว่าโฆษณาได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานสคบ.ให้ช่วยดูว่าสามารถควบคุมการโฆษณาไซยาไนด์ได้หรือไม่ ปัจจุบันมีบริษัทที่ขอนำเข้าไซยาไนด์ทั้งหมด 14 ราย รวมน้ำหนัก 80 ตันต่อปี โดยหลังจากนี้กรมโรงงานฯ จะมีการแก้ไขเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตนำเข้าไซยาไนด์ โดยจะกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติ เพื่อเพิ่มความความเข้มงวดก่อนนำเข้า เช่น ให้ผู้ที่ขออนุญาตนำเข้าแจ้งรายชื่อผู้ที่ต้องการใช้สารไซยาไนด์ เป็นต้น พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ไม่มีความบกพร่องในเรื่องนี้

รัฐบาล เผย เลือกตั้งล่วงหน้าและวันจริง ใช้บัตรประชาชน ใบขับขี่และบัตรประจำตัวคนพิการแบบอิเล็กทรอนิกส์ แสดงตนเพื่อใช้สิทธิได้ ด้านกรมการปกครอง สั่งเปิดทำบัตรประชาชน เสาร์-อาทิตย์ ถึง 14 พ.ค. ประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะต้องมีเอกสารที่เป็นหลักฐานในการแสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งรวมถึงบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุก็สามารถใช้แสดงตนได้เช่นกัน บัตรหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออก โดยต้องเป็นบัตรที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีหลงลืมหรือบัตร/หลักฐานข้างต้นไม่อยู่กับตัว สามารถใช้ภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้ได้ 3 แอปพลิเคชัน คือ แอปพลิเคชัน ThaID (ไทยดี) เพื่อแสดงบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์, แอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE เพื่อแสดงใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ และแอปพลิเคชันบัตรคนพิการ เพื่อแสดงบัตรประจำตัวคนพิการอิเล็กทรอนิกส์ แต่หากประสงค์จะทำบัตรประชาชนใหม่ แต่ไม่สะดวกเดินทางไปดำเนินการในช่วงวันธรรมดา ขณะนี้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง โดยได้เปิดให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ณ สำนักทะเบียนอำเภอ เขต เทศบาล เมืองพัทยา รวมทั้งศูนย์บริการอำเภอยิ้ม ทั่วประเทศ ในเสาร์-อาทิตย์ที่ 13-14 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มที่สายด่วนกรมการปกครอง 1548

กรณีที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ สามารถแจ้งเหตุก่อนวันเลือกตั้งได้ 7 วัน และ หลังเลือกตั้ง 7 วัน คือ ระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม 2566 และ วันที่ 15-21 พฤษภาคม 2566 โดยกรอกข้อมูลในแบบ ส.ส.1/8 หรือ ทำเป็นหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ พร้อมระบุ เลขบัตรประจำตัวประชาชน และ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านให้ชัดเจน ยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือ นายทะเบียนท้องถิ่น สามารถยื่นด้วยตัวเอง หรือ ส่งทางwปรษณีย์ลงทะเบียน หรือ แจ้งผ่านทางแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือ เว็บไซต์ www.bora.dopa.go.th/all-election สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Add Friends (เพิ่มเพื่อน) เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2566 ได้ที่ LINE Official Account : ECT Thailand https://lin.ee/jETxaeu #เลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบ #ไทยโหวตคนไทยพร้อมใช้สิทธิ #14พฤษภา66 #เลือกตั้ง2566

รู้ก่อนเลือก รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเลือกตั้ง ส.ส. ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ได้ที่ LINE Official Account : ECT Thailand สามารถ Add Friends (เพิ่มเพื่อน) ได้ 3 วิธี ดังนี้ 1. พิมพ์ค้นหา @ect.thailand ใน แอปพลิเคชัน LINE จากนั้นกดปุ่ม Add Friends (เพิ่มเพื่อน) 2. กดลิงก์นี้ >> https://lin.ee/jETxaeu 3. สแกนคิวอาร์โค้ดในภาพนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง www.ect.go.th #เลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบ #ไทยโหวตคนไทยพร้อมใช้สิทธิ #14พฤษภา66 #เลือกตั้ง2566